วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562

“นอนไม่หลับ” อาจนำไปสู่ “อัลไซเมอร์”



    ใครที่มักมีปัญหานอนไม่ค่อยหลับ อย่ามองข้ามเป็นอันขาด เพราะผลการศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ในสหรัฐอเมริกา พบว่า คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ มักมีสัญญาณทางชีววิทยาที่ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้มากที่สุด


จากการทดสอบเจาะน้ำไขสันหลังในกลุ่มผู้สูงวัยอายุเฉลี่ย 63 ปี ซึ่งมีคนในครอบครัวเป็นอัลไซเมอร์ หรือมีความเสี่ยงทางพันธุกรรมที่จะพัฒนาไปสู่อัลไซเมอร์ จำนวน 101 คน พบว่า ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ จะมีสัญญาณทางชีววิทยาที่บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์มากกว่าคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ

โดยสัญญาณที่บ่งชี้คือ การรวมตัวกันอย่างผิดปกติของโปรตีน beta-amyloid และการพันกันอย่างยุ่งเหยิงของใยประสาทเซลล์สมองที่เรียกว่า tau tangles

ดอกเตอร์บาร์บาร่า เบนด์ลิน นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำการวิจัยครั้งนี้ เผยว่า ภาวะการนอนไม่หลับไปแทรกแซงระบบการทำงานของสมองที่จะเริ่มทำงานในระหว่างที่เรานอนหลับ จนทำให้เกิดการสร้างแผ่นโปรตีน amyloid ในเซลล์สมอง จากการรวมตัวกันที่ผิดปกติ ขณะที่การพันกันอย่างยุ่งเหยิงของใยประสาทเซลล์สมอง จะไปขัดขวางการสื่อสารของเซลล์ประสาท  จนนำไปสู่สภาวะเสื่อมของระบบประสาท นอนไม่หลับ

อย่างไรก็ตาม ดอกเตอร์เบนด์ลิน ระบุว่าการศึกษาดังกล่าวยังไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่า การนอนหลับส่งผลต่อการพัฒนาไปสู่โรคอัลไซเมอร์ หรือว่าอัลไซเมอร์ส่งผลต่อคุณภาพในการนอนหลับของผู้ป่วย ซึ่งจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสนับสนุนในเรื่องนี้ต่อไป    

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sleepsleepless.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

7 ประโยชน์ของการ "ตื่นเช้า"

1.ได้กินอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ คนที่ตื่นเช้ามักจะได้กินอาหารเช้า ในขณะที่คนตื่นสายจะเร่งรีบออกจากบ้าน และกินของที่สะดวกรวดเร็ว ซึ่งไม่...