ร่างกายคนเราเป็นเสมือนเครื่องจักรที่ต้องทำงาน 24 ชั่วโมง การนอนก็เหมือนกับให้เครื่องจักรได้หยุดพัก ร่างกายจะอาศัยช่วงเวลานอนหลับซ่อมแซมและพักฟื้นตนเอง เสริมสร้างความจำของสมองและการขับของเสียพร้อมทั้งสะสมพลังงานไว้ใช้ในวันรุ่งขึ้น
การนอนหลับอย่างเพียงพอทั้งระยะเวลาและคุณภาพ จึงเป็นหลักประกันสำคัญต่อการมีสุขภาพกายและใจที่ดี อีกทั้งยังเป็นด่านแรกของการป้องกันโรคด้วย การนอนหลับในแต่ละช่วงเวลายังมีความสำคัญต่อสุขภาพต่างกัน อาทิ
- การหลับสนิทในช่วง 3 ทุ่ม – 5 ทุ่ม : จะช่วยให้ระบบน้ำเหลืองขับของเสียได้ดีขึ้น พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้นด้วย
- การหลับสนิทในช่วง 5 ทุ่ม – ตี 1 : จะช่วยให้ตับขับของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นให้เซลล์ผิวซ่อมแซมตัวเองและมีการผลัดเซลล์ใหม่เร็วกว่าปกติถึง 8 เท่า
- การหลับสนิทในช่วงเที่ยงคืน – ตี 4 : จะช่วยให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การหลับสนิทในช่วงตี 1 – ตี 3 : จะกระตุ้นให้ถุงน้ำดีขับพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การหลับสนิทในช่วงตี 3 – ตี 5 : จะส่งเสริมให้ปอดขับพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรจึงเรียกว่านอนไม่หลับ?
หลับยาก ใช้เวลามากกว่า 30 นาทียังไม่หลับ หลับไม่ลึก ฝันบ่อย หลับไม่สนิทและระยะเวลาการนอนหลับลดลง ตื่นบ่อย ตอนกลางคืนตื่นเกินกว่า 2 ครั้งและหลับต่อยาก ตื่นเช้าเกิน เมื่อตื่นแล้วรู้สึกไม่สดชื่น รู้สึกตนเองฝันอยู่ทั้งคืน ตื่นง่าย มีเสียงรบกวนเพียงนิดเดียวก็ตื่น คุณภาพการนอนไม่ดี เวลานอนเพียงพอ แต่ตื่นขึ้นมารู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียในวันรุ่งขึ้น ง่วงและเพลียเมื่อเวลาทำงาน รู้สึกมึนๆ งงๆ สมองไม่ปลอดโปร่ง หากมีอาการดังกล่าวเกิน 1 เดือนให้ถือว่าเป็นอาการนอนไม่หลับชนิดเรื้อรัง ควรหาสาเหตุและรักษาแต่เนินๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sleepsleepless.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น